เกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพครู

โดย อุไรวรรณ ส่วนสมพงษ์  - 19 มิ.ย. 2547


นำครูสู่เกณฑ์มาตรฐาน      ครูต้องพัฒนาตนเองให้มีความพร้อมตามมาตรฐานวิชาชีพโดย


พัฒนาตนเอง       
      หมายถึง ครูต้องปฎิบัติเพื่อพัฒนาตนเองให้มีความเจริญสมกับความเป็นครู ต้องคอยสั่งสมและฝึกอบรมให้เกิดขึ้น เป็นการพัฒนาตนเองมี 4 ประการ ซึ่งตามพุทธรรม เรียกว่า ภาวนา 4 คือ
      1.การพัฒนาทางกาย คือ การตอบสนองต่อสิ่งเร้า คือ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ฯลฯ
      2.การพัฒนาจิตใจ ความประพฤติ คือ การพัฒนาความประพฤติและจรรยาของบุคคล
      3.การพัฒนาจิตใจ คือ การฝึกอบรมจิตใจให้เบิกบานผ่องใสเข้มแข็ง มั่นคง
      4.การพัฒนาปัญญา คือ การสั่งสมความรู้  


เก่งแผน
      -ครูต้องรู้จักการวางแผนและวิธีการเขียนอผนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยมีองค์ประกอบของแผนครบถ้วน เพื่อเป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่เหมาะสมและนำไปปฎิบัติ
จริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ



แม่นกิจกรรม
      -รู้จักแนวทางในการจัดกิจกรรม ให้เกิดความสมดุลทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียนกิจกรรมครูริเริ่มหรือเด็กริเริ่ม กิจกรรมบูรณาการ จัดให้สอดคล้องกับความต้องการและความสนใจของผู้เรียน เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมีความสุข



โน้มนำผู้เรียน
      - คอยกระตุ้นให้ผู้เรียนค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเอง ลงมือปฎิบัติค้นหาคำตอบเอง ด้วยวิธีการของเด็กเอง สรุปข้อความรู้เอง นำเสนอข้อความรู้เอง แล้วเด็กจะเป็นคนคิดเป็น เพราะได้คิดเองตลอดเวลา ทำเป็นเพราะได้ลงมือปฎิบัติตลอดเวลา แก้ปัญหาได้ เพราะใช้กระบวนการแก้ปัญหาในการค้นหาคำตอบตลอดระยะ



เพียรปฏิบัติตน
      - วางตัวเป็นแบบอย่างที่ดี เช่น การแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย สวยงามไม่จำเป็นต้องทันสมัย
       -ด้านความรู้ ครูควรมีความรู้วุฒิทางการศึกษาด้านวิชาที่ตนเองสอน หรือได้รับการอบรมอย่างสม่ำเสมอ รู้จักสวงหาความรู้ และนำความรู้มาใช้ประโยชน์ได้ทันการเปลี่ยนแปลงนอกจากนี้ยังเข้าใจหลักสูตร การจัดกิจกรรมตามสาระ และรู้จักจัดบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนการสอน



ค้นหาข่าวสาร
      -คุณลักษณะของครูในยุคข่าวสาร ปัจจุบันสื่อและเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทอย่างมาก ในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของบุคคลในสังคม คนที่เป็นครูจะอยู่นิ่งเฉยไม่ได้ เรากำลังยืนอยู่บนจุดบรรจบของกระแสธารสองสาย สายหนึ่งคือการไหลบางอย่างบ้าคลั่งของสื่อข่าวสาร และอีกสายหนึ่งก็คือ สมรรถภาพของครู ถ้าเราผู้ซึ่งเป็นครูแข็งแกร่งพอ เราจะได้ข่าวสารความรู้ข้อมูลต่าง ๆ ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างมหาศาล เราสามารถจะใช้ข่าวสารต่าง ๆ เป็นเครื่องมือที่เปิดโลกกว้างของวิทยาการใหม่ มาสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ให้แก่เด็กเพื่อพัฒนาเด็กให้เป็นมนุษย์ที่มีประสิทธิภาพและสามารถอยู่ในยุคสังคมข่าวสารได้อย่าวมีความสุข



ร่วมงานชุมชน
      1.การรับผิดชอบค่อ พ่อ แม่ ของเด็ก และชุมชม ได้แก่
       -สร้างความสัมพันธืที่ดีต่อ พ่อ แม่ของเด็ก
       -เป็นที่ปรึกษาที่ดี และช่วยวางแผนในการพัฒนาให้เป็นคนดี
       -ให้ความจริงใจกับเด็กและผู้ปกครอง ทั้งต่อหน้าและลับหลัง
       -ทำให้ความรู้จักเด็ฌก และพื้นฐานทางครอบครัวของเด็กรายบุคคล
       -เปิดโอกาสให้หน่วยงานชุมชนได้มาให้ความรู้แก่เด็กในโรงเรียนหรือ
      นำเด็กไปร่วมกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนความเหมาะสม


2.การรับผิดชอบต่อเพื่อนครูด้วยกันได้แก่
       -สร้างสัมพันธ์ภาพที่ดีระหว่างเพื่อนครูฃ
       -สนับสนุน และยอมรับความคิดเห็นของเพื่อนครู
       -แลกเปลี่ยนความก้าวหน้าทางด้านวิชาการของเพื่อนครู
       -ส่งเสริมความก้าวหน้า ทางด้านวิชาการของเพื่อนครู



พัฒนาตนเองให้มีความพร้อมตามเกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพครู

แนวปฎิบัติ
      1.ครูโรงเรียนเอกชนควรศึกษาค้นคว้าหาความรู้เพื่อพัฒนาตนเองสร้างผลงานทางวิชาการและเผยแพร่ผลงานดังกล่าว รวมทั้งการเข้าร่วมกิจกรรมทางวิชาการต่าง ๆ เช่น การประชุม อบรม สัมมนา เป็นต้น
       2.ปฎิบัติกิจกรรมที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้เรียน ด้วยความรักและหวังดีต่อผู้เรียน เช่น พยายามจัดกิจกรรมการเรียนการสอนด้วยความตั้งใจสอนซ่อมเสริมแก่นักเรียนด้วยความปรารถนาดี มีการจัดทำแผนการสอนที่สามารถปฎิบัติได้จริง และเป็นแผนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง มีองค์ประกอบของแผนครบถ้วน เน้นให้ผู้เรียนปฎิบัติและค้นหาคำตอบด้วยตนเอง
      3.คิดค้น ผลิตและปรับปรุงสื่อการเรียนการสอน และเปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการผลิต คิดค้นควรเป็นสื่อที่ได้จากวัสดุในท้องถิ่น มีการประเมินตนและปรับปรุงให้เหมาะสมยิ่งขึ้น
      4.กระตุ้นให้ผู้เรียนค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเอง โดยใช้สถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อมุ่งสร้างนิสัยการปฎิบัติจนเป็นนิสัยติดตัวผู้เรียนตลอดไป
      5.ปฎิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี เช่น การแสดงออก การปฎิบัติ การแต่งกายสุภาพเรียบร้อย เหมาะสมกับกาลเทศะ ใช้วาจาสุภาพ ประพฤติตนเรียบร้อย เมตตากรุณาผู้เรียน รับผิดชอบปฎิบัติงานอย่างแข็งขัน
      6.ร่วมมือในการทำงานกับผู้อื่นในสถานศึกษาอย่างสร้างสรรค์ นั่นคือ ยอมรับฟังความคิดเห็นผู้อื่น ช่วยเหลือเพื่อนร่วมงานด้วยความเต็มใจและรวมทั้งการให้ความร่วมมือในการทำงานร่วมกับบุคคลอื่นนอกสถานศึกษา เช่น ยอมรับฟังความคิดเห็นและร่วมปฎิบัติงานกับผู้อื่นในชุมชน เป็นผู้นำในการวางแผน พัฒนาชุมชนอย่างสร้างสรรค์โดยคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม
      7.แสวงหาและรวบรวมข้อมูลข่าวสารในการพัฒนา เป็นการค้นคว้าสังเกต จดจำ รวบรวมข่าวสารสถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อนำมาจัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้เป็นระบบ รวมทั้งให้บริการข้อมูลข่าวสารแก่ผู้อื่น เพื่อนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้