ความเคลื่อนไหวของหลักสูตรการศึกษาขั้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๔ โดย พระมหาศรีวรรณ ทองดี - 19 มิ.ย. 2547
ความเคลื่อนไหวของหลักสูตรการศึกษาพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๔ สรุปประเด็นปัญหาเกี่ยวกับการใช้หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน  จากการศึกษารวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการใช้หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานจากเอกสารรายงานการวิจัย และการประชุมสัมมนาต่างๆ สรุปประเด็นปัญหาที่สำคัญๆ ที่ต้องเร่งดำเนินการปรับปรุงแก้ไขโดยด่วน ดังนี้  ๑. ด้านการจัดสาระการเรียนรู้พื้นฐาน พบว่า สถานศึกษาส่วนใหญ่กำหนดสาระการเรียนรู้พื้นฐานในแต่ละกลุ่มสาระแน่น/มากเกินไป เนื่องจากสถานศึกษายึดเอกสารสาระการเรียนรู้แกนกลางเป็นหลักในการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา ไม่ได้มีการนำไปเลือก / ปรับใช้ให้เหมาะสมกับสภาพ/ บริบทของแต่ละสถานศึกษา นอกจากนั้นสถานศึกษาบางแห่ง กำหนดสาระการเรียนรู้ในแต่ละปีให้ผู้เรียนได้เรียนทุกสาระในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ส่งผลให้เนื้อหาสาระแน่น  ๒. ด้านการจัดโครงสร้างเวลาเรียนสำหรับสาระการเรียนรู้พื้นฐาน สาระการเรียนรู้เพิ่มเติมและกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน พบว่า สถานศึกษาส่วนหนึ่ง กำหนดโครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา ยังไม่สอดคล้องกับหลักการ/แนวทางการจัดการศึกษาในแต่ละช่วงชั้น โดยเฉพาะช่วงชั้นที่ ๔ (ม.๔-๖) ที่มุ่งเน้นการศึกษาเพื่อเพิ่มพูนความรู้และทักษะเฉพาะด้านที่ตอบสนองความสามารถ ความถนัด ความสนใจของผู้เรียนแต่ละคนทั้งด้านวิชาการและวิชาชีพ แต่จากผลการศึกษาวิเคราะห์การจัดโครงสร้างหลักสูตรของสถานศึกษาต่างๆ พบว่า สถานศึกษาส่วนใหญ่ จัดสาระการเรียนรู้พื้นฐาน ทั้ง ๘ กลุ่มมากเกินไป ทำให้ผู้เรียนได้เรียนรู้สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม ค่อนข้างน้อย  ๓. ด้านมาตรฐานการเรียนรู้ พบว่า มาตรฐานการเรียนรู้ และมาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้น บางมาตราฐานใน ๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้ มีความซ้ำซ้อน ภาษาไม่ชัดเจนบางมาตรฐานกำหนดรายละเอียดมากเกินไป  ๔. ด้านการกำหนดรหัสวิชา พบว่า สถานศึกษาแต่ละแห่งได้มีการกำหนดระบบรหัสวิชาสำหรับรายวิชาพื้นฐานและเพิ่มเติมตามหลักสูตรสถานศึกษาหลากหลายมีทั้งที่เหมือนกันและแตกต่างกันไป ซึ่งทำให้ไม่สามารถสื่อสารกันได้ว่าระบบรหัสวิชาที่แต่สถานศึกษากำหนด เป็นรายวิชาพื้นฐาน หรือเพิ่มเติม โดยเฉพาะในช่วงชั้นที่ ๔ ซึ่งเป็นช่วงชั้นที่มีความเชื่มโยงกับการสอบคัดเลือเข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา การปรับปรุงหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน  กระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดให้มีแผนการดำเนินการปรับปรุงหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๔ ใน ๒ ลักษณะ ดังนี้ ลักษณะที่ ๑ การปรับเงื่อนไขข้อกำหนดในหลักสูตรแกนกลาง  ๑. การจัดสาระการเรียนรู้พื้นฐาน  ๑) ช่วงชั้นที่ ๑ - ๓ (ป.๑ ม.๓) แต่ละปีต้องจัดให้ครบทั้ง ๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ทั้งนี้ ในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ไม่จำเป็นต้องจัดให้เรียนครบทุกสาระแต่เมื่อเรียนจบช่วงชั้นผู้เรียนต้องเรียนครบทุกสาระ และมีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้นที่กำหนด  ๒) ช่วงชั้นที่ ๔ (ม.๔ ๖) แต่ละภาคเรียนไม่จำเป็นต้องจัดให้ครบทั้ง ๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ทั้งนี้ในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ไม่จำเป็นต้องจัดให้เรียนครบทุกสาระ แต่เมื่อเรียนจบช่วงชั้น ผู้เรียนต้องเรียนครบทุกสาระ และมีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้นและมีจำนวนหน่วยกิตเหมาะสมตามที่กำหนด  ๒. การกำหนดจำนวนหน่วยกิตช่วงชั้นที่ ๔ (ม. ๔ - ๖)  กำหนดจำนวนหน่วยกิตในช่วงชั้นที่ ๔ ไม่น้อยกว่า ๗๕ หน่วยกิตประกอบด้วย ๑ ) สาระพื้นฐาน 29 42 หน่วยกิต  - กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม ภาษาต่างประเทศ จำนวนกลุ่มละประมาณ ๔ - ๖ หน่วยกิต  - กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลป์ การงานอาชีพและเทคโนโลยี จำนวนกลุ่มละประมาณ ๓ - ๔ หน่วยกิต ๒) สาระเพิ่มเติม  ให้เลือกเรียนตามถนัด ความสนใจ โดยกำหนดจำนวนหน่วยกิตตามความเหมาะสม ลักษณะที่ ๒ การปรับสาระและมาตรฐานการเรียนรู้  ปรับสาระและมาตรฐานการเรียนรู้กลุ่มสาระฯ และมาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้น เพื่อให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ลดความซ้ำซ้อน ปรับความชัดเจนของภาษาตัดทอนรายละเอียดบางมาตราฐานที่มากเกินไป การกำหนดระบบรายงานผลการเรียนกลาง  ตามที่กระทรวงศึกษาธิการได้มีคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการ ที่ วก ๑๑๖๖/๒๕๔๔ เรื่อง การใช้หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๔ กระจายอำนาจให้โรงเรียนนำหลักสูตรแกนกลางของกระทรวงศึกษาธิการไปดำเนินการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา เพื่อจัดการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของโรงเรียน ความต้องการของผู้เรียน ผู้ปกครอง ชุมชน และสังคม พร้อมกับกระจายอำนาจให้โรงเรียนสามารถทำการประเมิน ตัดสิน และกำหนดรูปแบบการรายงานผลการเรียนได้เอง ทำให้โรงเรียนมีระบบการรายงานผลการเรียนแตกต่างกันหลากหลายกระทรวงศึกษาธิการจึงกำหนดระบบการรายงานผลการเรียนกลางขึ้น สำหรับใช้ในการเปรียบเทียบผลการเรียนของนักเรียน เพื่อการจัดสรรโอกาสในการศึกษาต่อตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๒๖ และเพื่อการคัดเลือกการแข่งขันอื่นใดที่จัดโดยหน่วยงานของทางราชการ เป็นระบบรายงานผลการเรียน ๘ ระดับ ดังนี้ ๑. ระดับผลการเรียน ๔ หมายถึง ผลการเรียนดีเยี่ยม ๒. ระดับผลการเรียน ๓.๕ หมายถึง ผลการเรียนดีมาก ๓. ระดับผลการเรียน ๓ หมายถึง ผลการเรียนดี ๔. ระดับผลการเรียน ๒.๕ หมายถึง ผลการเรียนค่อนข้างดี ๕. ระดับผลการเรียน ๒ หมายถึง ผลการเรียนน่าพอใจ ๖. ระดับผลการเรียน ๑.๕ หมายถึง ผลการเรียนพอใช้ ๗. ระดับผลการเรียน ๑ หมายถึง ผลการเรียนผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ ๘. ระดับผลการเรียน ๐   หมายถึง ผลการเรียนต่ำกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำ  การเปรียนเทียบผลการเรียนของนักเรียนที่ใช้ระบบการรายงานผลการเรียนแตกต่างกัน จะต้องปรับผลการเรียนของนักเรียนที่มีรูปแบบอื่นให้อยู่ในรูปของระดับผลการเรียนกลางของกระทรวงศึกษาธิการก่อน จึงจะเปรียบเทียบกันได้  ระบบการรายงานผลการเรียนกลางของกระทรวงศึกษาธิการ จะเริ่มใช้ในการจัดสรรโอกาสศึกษาต่อในปีการศึกษา ๒๕๔๙ เป็นต้นไป สำหรับการจัดสรรโอกาสศึกษาต่อในปีการศึกษา ๒๕๔๘ ให้ใช้ระบบการรายงานผลการเรียนกลางเป็น ๕ ระดับ การกำหนดรหัสวิชา  ตามที่กระทรวงศึกษาธิการได้มีการประกาศใช้หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช ๒๔๔๔ ได้กระจายอำนาจให้โรงเรียนนนำหลักสูตรการศึกษาขั้นพื่นฐานซึ่งเป็นหลักสูตรแกนกลางของกระทรวงศึกษาธิการ ไปดำเนินการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาโดยจัดทำรายวิชาพื้นฐานและรายวิชาเพิ่มเติมของแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ รวมทั้งกำหนดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน สำหรับจัดการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของรายวิชาตามหลักสูตรสถานศึกษาเป็นไปอย่างมีระบบ สามารถสื่อสารได้ตรงกันกระทรวงศึกษาธิการจึงกำหนดให้โรงเรียนทุกสังกัดที่จัดการศึกษา ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน กำหนดรหัสวิชาตามระบบรหัสวิชาที่กำหนด ดังนี้ ระบบรหัสวิชา หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๔ ๑. การกำหนดรหัสวิชา  ระบบรหัสวิชาที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนดเป็นระบบรหัสสำหรับบรายวิชาพื้นฐาน และเพิ่มเติม ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๔ เป็นระบบที่ประกอบด้วย ตัวอักษรและตัวเลข จำนวน ๖ หลัก ดังนี้ ๑.๑ หลักที่ ๑ เป็นรหัสตัวอักษรแสดงกลุ่มสาระการเรียนรู้ของรายวิชา คือ  ท  หมายถึง  รายวิชาในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย  ค  หมายถึง  รายวิชาในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์  ว  หมายถึง  รายวิชาในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์  ส  หมายถึง  รายวิชาในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม  พ  หมายถึง  รายวิชาในกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา  ศ  หมายถึง  รายวิชาในกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ  ง  หมายถึง  รายวิชาในกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี    หมายถึง  รายวิชาในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศให้ใช้รหัสของแต่ละภาษาตามรายการอักษรรหัสภาษาต่างประเทศ หมายเหตุ  ๑) รายการรหัสวิชาภาษาต่างประเทศ ที่จะนำไปใส่แทน มีดังนี้ ข  หมายถึง    ภาษาเขมร     จ  หมายถึง    ภาษาจีน ซ  หมายถึง    ภาษารัสเซีย     ญ  หมายถึง    ภาษาญี่ปุ่น ต  หมายถึง    ภาษาอิตาเลียน     น  หมายถึง    ภาษาลาติน บ  หมายถึง    ภาษาบาลี     ป  หมายถึง    ภาษาสเปน ผ  หมายถึง    ภาษาฝรั่งเศศ     ม  หมายถึง    ภาษามลายู ย  หมายถึง    ภาษาเยอรมัน     ร  หมายถึง    ภาษาอาหรับ ล  หมายถึง    ภาษาลาว     อ  หมายถึง    ภาษาอังกฤษ ฮ  หมายถึง    ภาษาฮินดู     ๒) กรณีที่มีโรงเรียนใดจัดทำรายวิชาอื่นๆ นอกเหนือจากที่กำหนดไว้ให้โรงเรียนทำเรื่องเสนอสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อกำหนดรหัสภาษาต่างประเทศเพิ่มเติมและประกาศให้โรงเรียนทั่วประเทศได้รับทราบและใช้ให้ตรงกัน  ๑.๒ หลักที่ ๒ เป็นรหัสตัวเลข แสดงช่วงชั้นของรายวิชา ซึ่งสะท้อนระดับความรู้และทักษะในรายวิชาที่กำหนดไว้ในแต่ละช่วงชั้น คือ ๑ หมายถึง รายวิชาสำหรับช่วงชั้นที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ - ๓ ๒ หมายถึง รายวิชาสำหรับช่วงชั้นที่ ๒ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ๖ ๓ หมายถึง รายวิชาสำหรับช่วงชั้นที่ ๓ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ - ๓ ๔ หมายถึง รายวิชาสำหรับช่วงชั้นที่ ๔ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ - ๖ ๑.๓ หลักที่ ๓ เป็นรหัสตัวเลข แสดงปีที่เรียนหรือปฏิบัติของรายวิชาซึ่งสะท้อนระดับความรู้และทักษะในรายวิชาที่กำหนดไว้ในแต่ละปี คือ ๑.๔ หลักที่ ๔ เป็นรหัสตัวเลขประเภทของรายวิชา คือ ๑  หมายถึง    รายวิชาพื้นฐาน ๒  หมายถึง    รายวิชาเพิ่มเติม ๑.๕ หลักที่ ๕ และหลักที่ ๖ เป็นรหัสตัวเลขแสดงลำดับของรายวิชาแต่ละประเภท ตั้งแต่ ๐๑ - ๙๙ ๒. แนวปฏิบัติในการกำหนดรหัสวิชา การนำระบบรหัสวิชาของกระทรวงศึกษาธิการไปกำหนดให้กับรายวิชาในหลักสูตรสถานศึกษา มีแนวปฏิบัติ ดังนี้ ขั้นที่ ๑ พิจารณารายวิชาที่กำหนดรหัส ว่าเป็นรายวิชาในกลุ่มสาระการเรียนรู้ใด แล้วนำอักษรรหัสแสดงกลุ่มสาระการเรียนรู้ มากำหนดเป็นรหัสหลักที่ ๑ ดังนี้ กำหนดอักษร  ท  สำหรับรายวิชากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย กำหนดอักษร  ว  สำหรับรายวิชากลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ กำหนดอักษร  ฝ  สำหรับรายวิชากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ภาษาฝรั่งเศส ขั้นที่ ๒ พิจารณารายวิชาที่กำหนดรหัส ว่าเป็นรายวิชาที่จัดขึ้นสำหรับช่วงใด แล้วนำตัวเลขรหัสแสดงช่วงชั้นมากำหนดเป็นรหัสหลักที่ ๒ ดังนี้ กำหนดเลข   ๑  สำหรับรายวิชาช่วงชั้นที่ ๑ กำหนดเลข   ๒  สำหรับรายวิชาช่วงชั้นที่ ๒ กำหนดเลข   ๓  สำหรับรายวิชาช่วงชั้นที่ ๓ กำหนดเลข   ๔  สำหรับรายวิชาช่วงชั้นที่ ๔ เมื่อนำไปรวมกับรหัสหลักที่ ๑ จะได้รหัส ๒ หลัก ดังนี้ ท ๑  หมายถึง  รายวิชากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช่วงชั้นที่ ๑ ว ๒  หมายถึง  รายวิชากลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ช่วงชั้นที่ ๒ ฝ ๓ หมายถึง  รายวิชากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศภาษาฝรั่งเศสช่วงชั้นที่ ๓ ขั้นที่ ๓ พิจารณารายวิชาที่กำหนดรหัส ว่าเป็นรายวิชาที่จัดขึ้นเพื่อให้เรียนหรือปฏิบัติในปีใดของช่วงชั้น แล้วนำตัวเลขรหัสแสดงปีในช่วงชั้นมากำหนดเป็นรหัสหลักที่ ๓ ดังนี้ กำหนดเลข  ๐  สำหรับรายวิชาที่เรียนปีใดก็ได้ไม่กำหนดปีเรียน กำหนดเลข  ๑  สำหรับรายวิชาที่เรียนในปีที่ ๑ กำหนดเลข  ๒  สำหรับรายวิชาที่เรียนในปีที่ ๒ กำหนดเลข  ๓  สำหรับรายวิชาที่เรียนในปีที่ ๓ เมื่อนำไปรวมกับรหัสหลักที่ ๑ และ ๒ แล้ว จะได้รหัส ๓ หลัก ดังนี้ ท ๑๐  หมายถึง  รายวิชากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช่วงชั้นที่ ๑ ไม่กำหนดปีเรียน ว ๒๑  หมายถึง  รายวิชากลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ช่วงชั้นที่ ๒ เรียนปีที่ ๑ (ป.๔) ฝ ๑๓  หมายถึง  รายวิชากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศภาษาฝรั่งเศส ช่วงชั้นที่ ๓ เรียน ปีที่ ๒ (ม.๒) ขั้นที่ ๔ พิจารณารายวิชา ที่กำหนดรหัส ว่าเป็นรายวิชาประเภทใด แล้วนำตัวเลขรหัสแสดงประเภทของรายวิชา มากำหนดเป็นรหัสหลักที่ ๔ ดังนี้  กำหนดเลข  ๑  สำหรับรายวิชาประเภทวิชาพื้นฐาน  กำหนดเลข  ๒  สำหรับรายวิชาประเภทวิชาเพิ่มเติม เมื่อนำไปรวมกับรหัสหลักที่ ๑,๒ และ ๓ แล้ว จะได้รหัส ๔ หลัก ดังนี้ ท ๑๐๑  หมายถึง  รายวิชากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช่วงชั้นที่ ๑ ไม่กำหนดปีเรียนประเภทรายวิชาพื้นฐาน ว ๒๑๑  หมายถึง  รายวิชากลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ช่วงชั้นที่ ๒ ปีที่ ๑ ประเภทราย วิชาพื้นฐาน (ป.๔) ฝ ๓๒๒  หมายถึง  รายวิชากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศภาษาฝรั่งเศส ช่วงชั้นที่ ๓ ปีที่ ๒ (ม.๒) ประเภทรายวิชาเพิ่มเติม ขั้นที่ ๕ พิจารณารายวิชาที่กำหนดรหัส ว่าเป็นรายวิชาลำดับที่เท่าไรของกลุ่มสาระการเรียนรู้ในแต่ละประเภทของแต่ช่วงชั้น แล้วนำตัวเลขรหัสบอกลำดับมากำหนดเป็นรหัสหลักที่ ๕ - ๖ให้ตามลำดับ ดังนี้ กำหนดเลข  ๐๑  สำหรับรายวิชาลำดับที่ ๑ กำหนดเลข  ๐๒  สำหรับรายวิชาลำดับที่ ๒ กำหนดเลข  ๐๓  สำหรับรายวิชาลำดับที่ ๓ กำหนดเลข  ๐๔  สำหรับรายวิชาลำดับที่ ๔ เมื่อนำไปรวมกับรหัสหลักที่ ๑, ๒, ๓และ ๔ แล้ว จะได้รหัส ๓๖ หลัก ดังนี้ ท ๑๐๑๐๑  หมายถึง  รายวิชากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช่วงชั้นที่ ๑ ไม่จำกัดปีเรียนประเภทรายวิชาพื้นฐาน ลำดับที่ ๑ ว ๒๑๑๐๓  หมายถึง  รายวิชากลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ช่วงชั้นที่ ๒ ปีที่ ๑ (ป.๔)ประเภทรายวิชาพื้นฐาน ลำดับที่ ๓ ฝ ๓๒๒๐๒  หมายถึง  รายวิชากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศภาษาฝรั่งเศส ช่วงชั้นที่ ๓ เรียนปีที่ ๒ (ม.๒) ประเภทรายวิชาเพิ่มเติม ลำดับที่ ๒ ขั้นที่ ๖ นำชื่อรายวิชาที่กำหนดรหัส พร้อมกับจำนวนชั่วโมงหรือหน่วยกิตรวมเข้ากับรหัสที่กำหนดให้ จะได้รายวิชาที่แสดงส่วนประกอบที่สมบูรณ์ดังตัวอย่างต่อไปนี้ ตัวอย่างการกำหนดชื่อรายวิชาตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๔ ท ๒๓๑๐๑  ภาษาไทย  ๑๖๐ ชั่วโมง หมายถึง รายวิชาภาษาไทย สำหรับเรียนในช่วงชั้นที่ ๒ ชั้นปีที่ ๓ (ป.๖) เป็นรายวิชาประเภทวิชาพื้นฐาน ลำดับที่ ๑ เวลาเรียน ๑๖๐ ชั่วโมงต่อปี ว ๒๑๑๐๓  วิทยาศาสตร์  ๑๒๐ ชั่วโมง หมายถึง   รายวิชาวิทยาศาสตร์ สำหรับเรียนในช่วงชั้นที่ ๓ ชั้นปีที่ ๑ (ม.๑) เป็นรายวิชา ประเภทรายวิชาพื้นฐาน ลำดับที่ ๓ เวลาเรียน ๑๒๐ ชั่วโมงต่อปี ฝ ๓๒๒๐๒  ภาษาอังกฤษสร้างสรรค์  ๐.๕ หน่วยกิต หมายถึง   รายวิชาภาษาอังกฤษสร้างสรรค์ สำหรับเรียนในช่วงชั้นที่ ๔ ชั้นปีที่ ๒ (ม.๕) เป็นรายวิชาประเภทวิชาเพิ่มเติม ลำดับที่ ๕ มีค่า ๐.๕ หน่วยกิต เวลาเรียน ๒๐ ชั่วโมง ต่อภาคเรียน จากการประชุมสัมมนาทางวิชาการ ณ โรงแรมเชียงใหม่ภูคำ |