แมงมัน
โดย
เกษตร วงศ์อุปราช - 19 มิ.ย. 2547
...จะเห็นได้ว่าเมื่อเวลาผ่านเลยไป เราก็เริ่มชินกับทุกสิ่งและสามารถอยู่ได้กับสิ่งที่เราไม่เคยชอบในตอนแรก
.และอีกอย่างนะสมชาย ถ้าเรามัวแต่เป็นหนอนหนังสือ แล้วเมื่อไรล่ะจะได้เป็นผีเสื้อ แต่สำหรับคุณนะสมชาย ดิชั้นว่าเป็นแมงมันก็ดี จะได้บินไปทั่วๆเห็นอะไรกว้างๆ แต่อย่าถูกจับกินเสียก่อนล่ะ
ห้องเรียน ป.4/1 โรงเรียนอัจฉริยะวิทยาทาน
 สวัสดีครับคุณครู นักเรียนชายหญิงยืนขึ้นทำความเคารพคุณครูวันเพ็ญ
 สวัสดีค่ะนักเรียน ทุกคนนั่งลงได้ วันเพ็ญทักทายนักเรียนก่อนที่จะเริ่มทำการสอน
 เอาล่ะค่ะนักเรียน หยิบหนังสือเรียนวิชาภาษาไทยขึ้นมา วันนี้เราจะเรียนบทที่ 3 นะคะ ครูจะให้เวลานักเรียนอ่านกัน 20 นาที แล้วเวลาที่เหลือทำแบบฝึกหัดท้ายบทให้เสร็จ เป็นคะแนนเก็บนะจ๊ะ
 ขณะที่ครูวันเพ็ญสั่งงาน มีนักเรียนสองคนแอบคาดคะเนเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น
 นี่เจี๊ยบ ครูสั่งงานแบบนี้ สงสัยวันนี้ครูจะโดดสอนอีกแล้วล่ะ น้อยหน่าตั้งข้อสังเกต
 ไม่ใช่หรอกน้อยหน่า ครูกำลังจะให้เราเรียนรู้ด้วยตัวเองต่างหาก เจี๊ยบแย้ง
 นักเรียนคะ คิดในใจกันดังเกินไปหรือเปล่าคะ ครูได้ยินนะ เสียงกระซิบของนักเรียนนั้นอาจจะเบาไม่พอที่จะหลบเรดาห์การฟังแบบจับผิดของครูวันเพ็ญไปได้ เธอจึงชี้แจงเหตุผลให้นักเรียนฟัง
วันนี้ครูมีประชุมตอนเช้า แล้วเดี๋ยวครูจะกลับมา ปรึกษาเรื่องงานกันได้ แต่ห้ามคุยกันนะคะ ครูวันเพ็ญสั่งเสียงอ่อนหวานสลับกับเสียงแข็ง หันไปทางธงไชยหัวหน้าชั้นเรียน
 นายแจ๊ก จดชื่อไว้ใครคุยกัน เดี๋ยวครูจะมาจัดการ
 ครับ ครู แจ๊กรับคำ
 นี่เจี๊ยบ น้อยหน่าสะกิดแขนเจี๊ยบ
 อะไรอีกล่ะน้อยหน่า เจี๊ยบเริ่มรำคาญ เพราะกำลังจะอ่านหนังสือตามคำสั่งครู
 ครูเขาว่าให้เราปรึกษากันได้ แต่ห้ามคุยกัน แล้วตกลงว่าเราจะคุยกันได้หรือเปล่า น้อยหน่าสงสัย
 อืม...นั่นนะสิน้อยหน่า สงสัยครูจะให้เราปรึกษากันในใจล่ะมั้ง แบบโทรจิตไง ไม่เคยดูในหนังเหรอ เจี๊ยบตอบน้อยหน่าไปตามประสาเด็กที่มีจินตนาการสูง
 ทำได้จริงเหรอเจี๊ยบ งั้นเดี๋ยวน้อยหน่าลองส่งโทรจิตคุยกับเจี๊ยบดูนะ ด้วยความเดียงสาน้อยหน่าเลยเออออตามเจี๊ยบไปด้วย
 ในขณะที่วันเพ็ญไม่ได้ใส่ใจในการสั่งงานของเธอแม้แต่น้อย แต่กำลังเดินผ่านห้องเรียน ป.4/2 ขยิบตาให้ครูสมศรี ซึ่งสมศรีตอบรับอย่างรู้กัน เหตุการณ์ในห้องเรียนนั้นคงเกิดขึ้นในรูปแบบเดียวกัน
- - - - - - - - - - - - - - - - -
ห้องพักครู
 สมศรีกำลังเดินเข้ามา สมทบกับวันเพ็ญและจันทร์แจ่ม
 สมศรี ทำไมเธอถึงมาช้าล่ะ เรากำลังจะเริ่มประชุมกันแล้ว จันทร์แจ่มถาม
 พอดีต้องสั่งงานนักเรียนอยู่ เนื้อหามาก เลยต้องใช้เวลาอธิบายนานหน่อย สมศรีตอบ
 นี่ สมศรี เธอกำลังใช้วิธีสอนแบบให้เด็กเป็นศูนย์กลางอยู่ใช่ไหม? วันเพ็ญถาม
 ก็ใช่นะสิ ก็ให้เด็กหาความรู้กันเอง เรียนกันเอง สรุปกันเองไง ชั้นว่าตั้งแต่มีการเรียนการสอนแบบ child-centered ก็ดีนะ ครูอย่างพวกเราจะได้มีเวลาปรึกษาหารือกัน สมศรี
 ใช่ ฉันเห็นด้วย แต่ชั้นว่าเราเริ่มประชุมกันเลยดีไหม เดี๋ยวครูใหญ่จะมาเสียก่อนวันเพ็ญเสนอ
 แล้ววันนี้เรามาประชุมเมาส์แตกเรื่องอะไรดี ...เอาเรื่องสามีเธอแล้วกันจันทร์แจ่ม ได้ข่าวว่าจะได้เลื่อนตำแหน่งอีกแล้วนี้ จะเก็บเงินไม่หวั่นไม่ไหวแล้วนะคุณนาย สมศรีเริ่มเมาส์ก่อน
 เธอก็ว่าไปเรื่อย เลื่อนเป็นแค่จ่า เงินเดือนจะเพิ่มสักแค่ไหนเชียว เดี๋ยวนี้ยิ่งปราบปรามส่วยกันอยู่ด้วย สู้ผัวเธอไม่ได้ เลื่อนขั้นเป็นผู้กำกับแล้ว ไม่มีเลี้ยงเพื่อนเลี้ยงฝูงเลยนะ จะเก็บเงินไว้ให้ปลวกแทะหรือจ๊ะหล่อน จันทร์แจ่มถามกลับสมศรี
แค่ผู้กำกับรายการโทรทัศน์สำหรับเด็ก จะได้เงินสักเท่าไหร่กัน แล้วไม่รู้ว่าจะมีคนดูหรือเปล่า สู้ยัยวันเพ็ญไม่ได้ ผัวเป็นเป็นถึงเจ้าของบริษัทมือถือยักษ์ใหญ่ ไม่รู้ทำไมยังมาสอนหนังสืออยู่ได้ เป็นชั้นนะนั่งกระดิกเท้านอนกดมือถือเล่นสบายๆอยู่บ้านดีกว่า สมศรีส่งต่อให้วันเพ็ญ
ชั้นไม่ชอบอยู่บ้านเฉยๆ ก็เลยอยากจะทำอะไรให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมบ้าง วันเพ็ญตอบอย่างมีหลักการ
ชั้นรู้ทันหรอกน่า จะมาหาครูหนุ่มๆ ไปเก็บไว้เป็นคอลเล็คชั่นล่ะสิ แต่หายากหน่อยนะ มีแต่สาวแก่ๆทั้งนั้น เห็นมีแต่ครูสมชายที่พอดูได้ จันทร์แจ่มถามแบบรู้ทัน
จันทร์แจ่มเธอพูดซะเสียสถาบันครูอย่างชั้นหมดเลยนะ แต่ว่า....มันก็จริงของเธอนะ ฮิๆ
แต่ครูสมชายชั้นไม่เอาหรอกนะ วันๆ ไม่เห็นสนใจอะไร อ่านแต่ตำรา หนังสือ พวกบ้างานเกินไป ไม่ใช่สเปก ดูสิเรามานั่งคุยอยู่ตั้งนานแล้ว ยังนั่งอ่านอะไรอยู่หลังห้องนั่นแหละ
ช่างเขาเถอะวันเพ็ญ เรามาคุยเรื่องของเราต่อดีกว่า
แล้วครูทั้งสามก็ผลัดเปลี่ยนกันคุยกันเป็นการประชุมกันอย่างออกรสออกชาติ เปลี่ยนห้องพักครูให้กลายเป็นมุมสนทนาน้ำชากาแฟ น่าสงสารอนาคตของเด็กนักเรียนโรงเรียนนี้เสียอย่างอดห่วงไม่ได้ ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่โชคยังดีที่โรงเรียนนี้ยังมีคนที่มีจิตวิญญาณความเป็นครูอย่าง ครูใหญ่นวลจันทร์ ที่เธอกำลังเดินมาที่ห้องพักครู และได้ยินเสียงหัวเราะพูดคุยสนุกสนานของครูสาว(เหลือน้อย) ทั้งสามคน เล็ดรอดออกมาแต่ไกล
 อะแฮ้ม!!! ทำอะไรกันอยู่ เหล่าแม่พิมพ์ของชาติ? ครูใหญ่ถามด้วยความสงสัย
 ครูทั้งสามแสดงอาการตกใจเล็กน้อย และตอบกลบเกลื่อนไปว่า
พวกเรากำลังประชุมเตรียมแผนการสอนอยู่ค่ะ วันเพ็ญตอบ
เช้านี้พวกคุณมีสอนกันไม่ใช่หรือ หรือว่าปล่อยให้นักเรียนเรียนกับกระดานดำแทน ครูใหญ่ถามอย่างสงสัย
เราใช้วิธีสอนแบบให้นักเรียนเป็นศูนย์กลางตามนโยบายของโรงเรียนไงคะ จันทร์แจ่มตอบอย่างมั่นใจ
อืม...ให้เขาเรียนกันเองแล้วพวกคุณจะได้มีเวลามาวาง
แผน talk of the town ซุบซิบนินทากันใช่ไหม ครูใหญ่เหน็บแนม
ใช่ค่ะ ครูใหญ่ สมศรีตอบแบบไม่ทันคิด ทำให้วันเพ็ญเตือนด้วยการแอบหยิกที่เอวสมศรี เอ้ย ไม่ใช่ค่ะ ดิชั้นหมายถึงวางแผนการเรียนการสอนน่ะค่ะ ใช่ไหมพวกเรา สมศรีหาแนวร่วมและทั้งสองก็ตอบรับเป็นเสียงเดียวกัน
เอาล่ะๆ ไม่ว่าพวกคุณจะทำอะไรอยู่ก็ไม่เป็นไร แต่ดิฉันจะขออธิบายให้พวกคุณที่เป็นครูได้เข้าใจสักนิดหนึ่งว่า การที่ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง หมายความว่าผู้เรียนนั้นสำคัญที่สุด เพราะพวกเขาคืออนาคตของประเทศชาติ และคนที่จะช่วยสร้างอนาคตให้เขาได้อย่างมั่นคง คือแม่พิมพ์ของชาติ คือครูอย่างพวกเรานี้ พวกคุณอาจจะให้อิสระเด็กในการเลือกเรียนในสิ่งที่ชอบ ให้เขาเรียนรู้ด้วยตนเอง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทิ้งพวกเขาไว้ให้เรียนรู้อย่างเดียวดาย พวกคุณมีหน้าที่ต้องดูแลเอาใจใส่ คอยให้คำแนะนำพวกเขาไปสู่การเรียนรู้ที่ถูกต้อง ถ้าไม่อย่างนั้นแล้วให้เด็กพวกนี้เรียนแบบ home school อยู่ที่บ้านไม่ดีหรือคะ ไม่ต้องมีมันแล้วโรงเรียนอัจฉริยะฯ พวกคุณจะได้มีเวลาพูดคุยวางแผนกันทั้งปีดีไหมคะครูวันเพ็ญ ครูใหญ่หันไปถามครูวันเพ็ญ
วันเพ็ญยิ้มแห้งๆ แต่ไม่ได้ตอบ ถ้าอยู่ต่อคงจะรับการเทศนาอีกหลายบท จึงรีบร้อนกลับห้องเรียนไปดูนักเรียนเป็นการใหญ่ ด้วยเหตุผลที่ห่วงใยนักเรียนนั้นเป็นส่วนหนึ่ง แต่จริงๆแล้วทั้งสามไม่อยากถูกยื่นซองขาวก่อนเวลาอันควร และบำเหน็จก็จะไม่ได้กันพอดี
ก่อนที่ครูนวลจันทร์กำลังจะเดินออกไปจากห้องพักครู ก็เหลือบไปเห็นครูสมชายนั่งอยู่ที่โต๊ะหลังห้อง กำลังอ่านหนังสือด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียด ด้วยตำแหน่งครูใหญ่ของเธอนั้นทำให้เธอจำเป็นต้องรู้ทุกความเคลื่อนไหวของครูและนักเรียนที่นี่แทบทุกคน เธอรู้ว่าครูคนไหนที่มารับราชการครูเพื่อหาเช้ากินค่ำไปวันๆ หรือทำงานแบบเช้าชามเย็นสองชาม และครูคนไหนที่พกพาจิตวิญญาณของความเป็นครูมาจริงๆ จากการสังเกตหลายครั้งทำให้เธอรู้ว่า ครูสมชายเป็นหนึ่งในครูที่มีความตั้งใจจริงที่มีจิตวิญญาณของความเป็นครูฝังลึกอยู่ในจิตใจ เธอจึงเดินไปทักทายครูสมชาย
ทำอะไรอยู่ ครูสมชาย หน้าเครียดเชียว หรือว่าเตรียมวางแผนการสอนอยู่ ครูนวลจันทร์ถาม
ใช่ครับ แต่ชั่วโมงนี้ผมไม่มีสอน เหมือนครูสามท่านนั้นนะครับ ครูสมชายรีบตอบ
รีบตอบเชียวครูสมชาย กลัวชั้นจะว่าคุณแบบสามคนนั้นหรือคะ ชั้นรู้ดีว่าครูเป็นยังไง ครูเป็นครูที่ดีคนหนึ่งเลยล่ะ
ขอบคุณครับครูใหญ่ แต่ผมเริ่มรู้สึกไม่มั่นใจอะไรบางอย่างครับ
เรื่องอะไรล่ะ พอจะเล่าให้ดิชั้นฟังได้ไหม เรื่องการสอนหรือเปล่า
จะว่าอย่างนั้นก็ได้ครับ ผมกำลังคิดอยู่ว่าจะสอนนักเรียนแบบเดิม หรือว่าจะสอนวิธีใหม่แบบบูรณาการสาขาวิชาเข้าด้วยกัน แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจมันดีนัก และไม่รู้ว่าการเปลี่ยนแปลงการสอนมันจะดีหรือเปล่า ผมยังไม่คุ้นเคยกับมันครับ
ดิฉันเข้าใจนะสมชาย พวกเราเป็นครูที่คาบเกี่ยวระหว่างหลักสูตรเก่ากับหลักสูตรใหม่ การเปลี่ยนแปลงปรับเปลี่ยนอะไรย่อมมีมากเป็นธรรมดา พอจะมีเวลาสักหน่อยไหมล่ะ ชั้นอยากจะเล่าเรื่องอะไรให้คุณฟังสักเรื่องหนึ่ง
มีแน่นอนครับ เผื่อจะชี้ทางสว่างให้ผมได้บ้าง
เป็นเรื่องของแมงมันนะ
แมงมันหรือครับ อืม...น่าสนใจ มันเป็นยังไงครับ ครูสมชายทำหน้างง และตั้งใจฟัง
เมื่อก่อนตอนชั้นเป็นเด็ก ชั้นก็จำไม่ได้ว่ามันกี่ปีมาแล้วนะ รู้สึกจะนานเหลือเกิน (ครูสมชายแอบยิ้ม และคิดในใจว่ามันคงจะนานจริงๆ จากอายุของครูนวลจันทร์ที่เข้าวัยเกษียณเต็มแก่) บ้านชั้นอยู่ชนบท ช่วงเริ่มต้นหน้าฝนคืนสองคืนแรกแมงมันจะออกมาเยอะมาก เวลากินข้าวแล้วแมงมันก็บินมาตกลงในจากข้าวชั้น ชั้นก็ไม่กินข้าวจานนั้น เพราะรู้สึกไม่ชอบแม้ว่าชาวบ้านจะชอบจับมันไปทอดกิน หรือบางคนก็กินกันดิบๆ อย่างนั้น ต่อมาอีกสักระยะเวลาหนึ่งมันบินมาอีกชั้นก็พยายามเขี่ยเอาแมงมันออก แล้วถึงจะกินข้าวจานนั้น พอเวลาผ่านไปนานเข้าๆ ชั้นก็กินทุกอย่างทั้งแมงมันและข้าว จนเดี๋ยวนี้เวลาแมงมันพยายามจะกระโดดออกจากจานข้าวชั้นก็จะจับมันใส่ลงไปใหม่เสียด้วยซ้ำ จะเห็นได้ว่าเมื่อเวลาผ่านเลยไป เราก็เริ่มชินกับทุกสิ่งและสามารถอยู่ได้กับสิ่งที่เราเคยไม่ชอบในตอนแรก คุณคิดว่าไงล่ะสมชาย
ครูใหญ่กำลังบอกว่าเราต้องพร้อมที่จะรับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นใช่ไหมครับ
ใช่ ซึ่งในความคิดของดิชั้นนะ ไม่ต้องยึดเอาเป็นบรรทัดฐานก็ได้ ชั้นคิดว่าถ้าสิ่งเก่ามันดีที่สุดจริงๆแล้ว มนุษย์เราคงไม่คิดประดิษฐ์สิ่งใหม่ๆ ขึ้นมา หรือไม่ก็การเรียนการสอนที่เราเคยคิดว่าดีที่สุด มันก็ดีที่สุดในสมัยนั้น แต่ยุคสมัยมันเปลี่ยนไป มีการพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ เหมือนการเรียนรู้ที่ไม่มีวันจบสิ้น เราต้องปรับตัวและยอมรับสิ่งใหม่ที่เข้ามา ถ้าสิ่งนั้นจะช่วยพัฒนาให้การศึกษาไทยเราดีขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นนะเรายังต้อง....
ยังไม่ทันที่ครูใหญ่จะพูดจบ สมชายก็ตัดบทขึ้นมาเสียก่อน
ขอบคุณครับครูใหญ่ เช้าวันนี้ผมได้อะไรจากครูใหญ่มากเลยครับ แต่พอดีผมต้องรีบไปแล้วครับ
งั้นก็ไม่เป็นไรค่ะ มีอะไรก็มาปรึกษาดิชั้นได้เสมอ แล้วจะรีบไปสอนหรือครูสมชาย หรือว่าจะไปห้องสมุดอีก
ไม่ใช่หรอกครับ คือ...ผมจะรีบไปเข้าห้องน้ำต่างหากครับ ครู
อ้าว...เป็นอย่างนั้นไป นี่ฟังดิชั้นพูดจนท้องไส้ปั่นป่วนเลยเหรอครูสมชาย รีบไปซะนะ เดี๋ยวมันเกิดพรวดพราดออกมา จะได้บูรณาการกันยกใหญ่ล่ะคราวนี้ ครูนวลจันทร์พูดกึ่งหัวเราะ
ถ้าอย่างนั้น ผมไปก่อนนะครับครู
เอ้อ.นี่ .ถ้าอยากรู้เรื่องการสอนแบบบูรณาการนะ ลองแวะเวียนไปดูการสอนของครูบูรณาดูสิตอนนี้ เธอกำลังสอนอยู่ อาจจะได้เทคนิควิธีสอนดีๆจากเธอมาก็ได้นะ และอีกอย่างนะสมชาย ถ้าเรามัวแต่เป็นหนอนหนังสือ แล้วเมื่อไรล่ะจะได้เป็นผีเสื้อ แต่สำหรับครูสมชาย ดิชั้นว่าเป็นแมงมันก็ดีนะ จะได้บินไปทั่วๆเห็นอะไรกว้างๆ แต่อย่าถูกจับกินเสียก่อนล่ะ
ขอบคุณครูใหญ่ที่แนะนำครับ สมชายประทับใจในคำพูดของครูใหญ่มาก และคิดตามไปด้วย แม้แต่ในขณะที่เข้าห้องน้ำ
- - - - - - - - - - - - - - - - -
 ครูสมชายเดินมาที่ห้องเรียน ป.4/4 สังเกตไปที่ป้ายชื่อครูประจำชั้นเรียน ที่ติดไว้หน้าห้องมีชื่อ ครูบูรณา ซึ่งเขียนด้วยชอล์กสีขาว บนกระดานสีเขียว และเขียนห้อยท้ายว่า ผู้น่ารัก ด้วยชอล์กสีชมพู ซึ่งคงเป็นฝีมือของเด็กนักเรียนจอมซนในวัยช่างขีดช่างเขียนและชอบซักถาม ครูบูรณา ผู้น่ารัก เธออาจจะน่ารักจริงๆ จนเป็นที่รักของเด็กนักเรียนก็ได้กระมัง สมชายคิดในใจ และกำลังเดินเข้าไปดูการสอนในห้องนั้น สมชายรู้สึกว่าตัวเองนั้นเป็นแมงมันซึ่งกำลังบินไปสู่แสงสว่างของดวงไฟแห่งการเรียนรู้ แต่สิ่งที่ครูสมชายพบกับมีเพียงแค่ห้องเปล่าๆ ที่ไร้สิ่งมีชีวิต มีแต่โต๊ะและเก้าอี้ที่ตั้งอยู่เป็นระเบียบเท่านั้น ดังกับว่าเช้านี้มันไม่เคยได้ถูกนั่งมาก่อน
เกิดอะไรขึ้น นักเรียนหายไปไหนหมด หรือว่าครูบูรณาไม่สบาย ครูสมชายเข้ามาในห้องเรียนจากนั้นก็พบคำตอบอยู่ตรงหน้า เขาอ่านข้อความบนกระดานแล้วอมยิ้มนิดๆ
...นักเรียนที่กำลังอ่านข้อความนี้อยู่ แสดงว่ามาสายนะคะ วันนี้เราย้ายไปเรียนที่ห้องโสต รีบตามมานะคะนักเรียน...
 
ครูสมชายตามมาแอบดูการสอนของครูบูรณาที่ห้องโสต เห็นนักเรียนกำลังดูวีดีโอภาพยนตร์เรื่องโหมโรงกันอยู่ ตอนแรกครูสมชายคิดว่าเธอคงจะสอนเรื่องเกี่ยวกับดนตรีไทยคือระนาดเอกเพียงอย่างเดียว แต่เมื่อเฝ้าดูไปนานๆ เขาก็ได้รับรู้ว่ามันมีอะไรมากกว่าที่เขาคิด
ดูภาพยนตร์เรื่องโหมโรงจบแล้ว ได้เรียนรู้อะไรจากเนื้อเรื่องบ้างคะนักเรียน? ครูบูรณาเริ่มตั้งคำถาม
ได้ฟังเสียงระนาดค่ะครู เด็กหญิงหนึ่งตอบด้วยอย่างมั่นใจ
ตอบได้ตรงคำถามมากค่ะ แล้วคนอื่นล่ะคะ?
คุณครูครับ ทำไมเวลาพระเอกจะเคาะระนาด ถึงต้องยกมือไหว้ก่อนทุกครั้งล่ะครับ แต่ไม่เห็นระนาดไหว้ตอบเลย
เค้าเรียกว่าตีระนาดค่ะ ไม่ใช่เคาะระนาด แล้วสมศักดิ์คิดว่ายังไงล่ะ ทำไมศรหรือขุนอินเวลาจะตีระราด หรือเล่นระนาดพวกเขาถึงต้องยกมือไหว้
คงเหมือนที่เวลาพวกเราเจอครู ต้องสวัสดีแล้วยกมือไหว้ใช่ไหมครับ
ใช่แล้วจ้ะแต่ไม่ใช่เฉพาะกับครูเท่านั้นนะกับพ่อแม่ หรือผู้ใหญ่ที่เรารู้จัก เราก็ใช้การไหว้เป็นการทักทาย และเป็นการแสดงความเคารพต่อผู้อาวุโส การไหว้เป็นวัฒนธรรมอันงดงามรวมทั้งเป็นสิ่งที่แสดงถึงเอกลักษณ์ และเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชนชาติไทยเราด้วยนะคะ
งั้นที่ศรไหว้ระนาดก็แสดงว่าเขาทักทายและเคารพในระนาดของเขาใช่ไหมครับ สมศักดิ์ถามต่อ
ถามดีได้มากจ้ะ ประเพณีของไทยเรานักเรียนหรือลูกศิษย์จะเคารพในตัวครูบาอาจารย์ที่ประสิทธิประสาทวิชาของเรามา ดังนั้นการประนมมือไหว้ระนาดของศรทุกครั้งก็เหมือนกับระลึกถึงพระคุณครูที่ได้ประสิทธิประสาทวิชามา รวมถึงเครื่องดนตรีไทยระนาดเปรียบเสมือนตัวแทนของครูที่ศรต้องเคารพบูชา
เข้าใจแล้ว ถ้าอย่างนี้เวลาเราจะดูวีซีดีโหมโรงครั้งต่อไปเราก็คงต้องยกมือไหว้ก่อนใช่ไหมคะ เราจะได้นึกถึงครูบูรณาที่สอนให้รู้เรื่องวัฒนธรรมไทย
เพื่อนๆ ในชั้นหัวเราะ ครูบูรณาอมยิ้ม
จะทำอย่างนั้นก็ไม่ผิกกติกานะจ้ะ ถ้าสิ่งนั้นทำให้นักเรียนคิดถึงครู ครูก็จะดีใจมากเลยค่ะ
นอกจากนั้นครูบูรณาฝึกให้เด็กคิด ได้แสดงความคิดเห็น ฝึกตั้งคำถามว่าทำไม่ตัวละครตัวนี้ถึงมีบุคลิกนิสัยที่แสดงออกมาอย่างนั้น ทำไมเหตุการณ์ในเรื่องถึงลงเอยแบบนั้นได้ และสอดแทรกประวัติศาสตร์ของดนตรีไทยเข้าไป และการดำรงชีวิตของคนสมัยนั้น ทั้งเรื่องการกิน ความเป็นอยู่ รวมถึงการแต่งกาย และเรื่องของวัฒนธรรมตะวันตกที่เริ่มแพร่กระจายเข้ามาในประเทศไทย เธอกำลังสอนประวัติศาสตร์ไปด้วย รวมถึงการใช้ภาษาไทยที่ใช้ในสมัยนั้น  
การสอนของครูบูรณานั้นเป็นธรรมชาติ และเข้ากับเด็กได้ดี เธอไม่เคยพูดว่าคำตอบของเด็กที่ตอบมานั้นผิด แต่ใช้การอธิบายให้เด็กรู้ชัดด้วยตนเอง มีการเสริมแรงตามความเหมาะสม และที่สำคัญ เธอเป็นครูวัยประมาณยี่สิบเก้าที่น่ารักจริงๆ เสียด้วย แต่เขาไม่เคยสังเกตมาก่อนเลย อาจเป็นเพราะเขาเป็นหนอนหนังสือมากเกินไป เขาคิดว่าเขาควรจะเปลี่ยนจากหนอนเป็นผีเสื้อ ไม่ใช่สิ ผีเสื้ออาจจะสวยเกินไป เขาจะเป็นแมงมันที่จะบินไปเปิดโลกทัศน์ที่กว้างไกลขึ้นอย่างที่ครูใหญ่นวลจันทร์บอก
 ครูสมชายรอพบครูบูรณาหลังจากที่เธอสอนเสร็จ เพื่อคุยเรื่องการสอนแบบบูรณาการเพิ่มเติม แต่ที่ผิดสังเกตคือเมื่อเด็กนักเรียนเดินออกมาจากห้อง มีนักเรียนหญิงและชายบางคนหลังจากยกมือไหว้ครูสมชายแล้ว ก็ยิ้มและทำท่าเหมือนหัวเราะคิกคัก จนทำให้เขารู้สึกฉงนใจ กำลังจะเอ่ยถามนักเรียน แต่พอดีกับจังหวะที่ครูบูรณาเดินออกมาพอดี
 สวัสดีค่ะ ครู.... ครูบูรณาพยายามจะนึกชื่อครูสมชาย
 ผม....สมชายครับ
  อ๋อ...ครูสมชายจำได้แล้วค่ะ เคยเห็นบ่อยๆ ที่ห้องสมุดแต่จำชื่อไม่ได้เสียที มีอะไรหรือเปล่าคะ
 คือ เมื่อสักครู่ผมแอบสังเกตเห็นการสอนของครูบูรณาแล้วประทับใจครับ ผมเลยอยากมาปรึกษาเรื่องการสอนแบบูรณาการ เผื่อจะได้นำไปใช้สอนเด็กของผมบ้างน่ะครับ
 ได้สิคะ ยินดีค่ะ เดี๋ยวตามดิชั้นมาที่ห้องพักครูเลย เด็กๆ จะเบรกประมาณ 15 นาที
 ครูสมชายรับคำและเดินตามครูบูรณาไปที่ห้องพักครู และก็เอะใจที่ครูบูรณามองมาที่ตนแล้วก็ยิ้มแบบแปลกๆ อีกแล้ว จึงทำให้เขาฉงนหนักเป็นหลายเท่า
 เออ...ครูบูรณาครับ แต่ผมรู้สึกว่าเด็กของครูมีท่าทางแปลกๆ นะครับ
 แปลกยังไงหรือคะ
 ก็เด็กเห็นผมแล้ว ก็หัวเราะแปลกๆ เออ...แล้วรวมถึงครูบูรณาด้วยผมก็สังเกตได้ว่าครูก็ยิ้มให้ผมแบบแปลกๆ เหมือนกันนะ
 คุณอาจเป็นครูที่มีเสน่ห์ ก็เป็นได้นะครูสมชาย เด็กและดิชั้นเลยยิ้มให้ ไงคะ
 เมื่อได้ฟังดังนั้น จากสีหน้าชวนฉงนของครูสมชายแทนที่ด้วยรอยยิ้มแบบกรุ้มกริ่ม
 ครูบูรณายิ้มให้ ส่งสายตามองครูสมชายสักพัก แล้วค่อยๆเดินเข้ามาหาเขา
 ครูสมชายคะ จริงๆ แล้วฉันมีอะไรจะบอก เป็นความลับห้ามบอกใครนะคะ
 ครูสมชายเห็นครูบูรณาเข้ามาใกล้ และพูดด้วยน้ำเสียงอันหวานพร้อมท่าทางแปลกๆของเธอ ทำให้เขารู้สึกหวั่นไหวได้เหมือนกัน และคิดเข้าข้างไปเองว่าเธอแอบชอบเขาหรือเปล่า
 เธอเข้ามากระซิบที่ข้างหูครูสมชายเบาๆ ซึ่งประโยคนั้นทำให้เขาหน้าแดงระเรื่อด้วยอาการเขินอายอย่างเห็นได้ชัด ไม่ใช่ครับ เร็วเกินไปที่ครูบูรณาจะบอกรักครูสมชาย
 แต่เธอบอกกับเขาว่า ครูสมชายคะ....หน้าต่างครู...ไม่ได้ปิดค่ะ
  ด้วยความรีบร้อนออกจากห้องน้ำเพื่อมาให้ทันการสอนของครูบูรณา ทำให้เขาลืมรูดซิบ เขาทั้งอายและก็นึกขำตัวเองไปในเวลาเดียวกัน และรู้สึกว่าตอนนี้เขาอยากจะกลายร่างเป็นแมงมันตัวเล็กๆ ไปแอบอยู่แห่งไหนสักที่หนึ่งเสียจริงๆ
จบตอน 1
|